Dark mode
ประโยชน์ของ Git
1. การจัดการเวอร์ชันที่ทรงพลัง
- ติดตามการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง ทุกการแก้ไขจะถูกบันทึกเป็นประวัติ
- ย้อนกลับไปเวอร์ชันก่อนหน้าได้ เมื่อเกิดปัญหาสามารถย้อนกลับไปเวอร์ชันที่เสถียรได้
- ดูประวัติการแก้ไข รู้ว่าใครแก้ไขอะไร เมื่อไหร่ และทำไม
2. การทำงานเป็นทีม
- ทำงานพร้อมกันได้หลายคน โดยไม่ทับงานกัน
- แยกการทำงานเป็น Branch พัฒนา Features ต่างๆ พร้อมกันได้
- รวมโค้ดอัตโนมัติ Git ช่วย Merge การเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ
3. ความยืดหยุ่น
- ทำงานแบบ Offline ได้ โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- สาขาการทำงาน (Branching) สร้างสาขาเพื่อทดลองไอเดียใหม่ๆ โดยไม่กระทบโค้ดหลัก
- ย้อนกลับการเปลี่ยนแปลง ได้ง่ายเมื่อเกิดข้อผิดพลาด
4. ความปลอดภัย
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ด้วย SHA-1 hash
- ป้องกันการสูญหายของข้อมูล ทุกคนในทีมมีสำเนาของโปรเจกต์
- ยืนยันตัวตนผู้แก้ไข ด้วย GPG signing
5. การทำงานร่วมกับ Remote Repository
- GitHub, GitLab, Bitbucket ทำงานร่วมกับบริการโฮสต์ Git ได้หลากหลาย
- Backup อัตโนมัติ เมื่อ push ไปยัง remote repository
- Continuous Integration/Deployment รองรับการทำงานอัตโนมัติ
6. ประสิทธิภาพ
- ทำงานเร็ว แม้มีไฟล์จำนวนมาก
- ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ เก็บเฉพาะการเปลี่ยนแปลง (delta)
- รองรับไฟล์ทุกรูปแบบ ทั้งโค้ด เอกสาร และไฟล์ไบนารี
7. ระบบนิเวศที่หลากหลาย
- เครื่องมือที่หลากหลาย ทั้ง GUI และ Command Line
- ปลั๊กอินและส่วนขยาย เพิ่มความสามารถตามต้องการ
- ชุมชนขนาดใหญ่ มีทรัพยากรการเรียนรู้มากมาย
8. การจัดการโปรเจกต์ขนาดใหญ่
- Submodules จัดการ dependencies ภายนอก
- Sparse Checkout ดึงเฉพาะส่วนที่ต้องการ
- Shallow Clone ดึงเฉพาะประวัติล่าสุดเพื่อประหยัดพื้นที่
9. การทำงานข้ามแพลตฟอร์ม
- รองรับทุกระบบปฏิบัติการ Windows, macOS, Linux
- เข้ากันได้กับเครื่องมือพัฒนา ทุกประเภท
10. การจัดการ Release
- Tagging ทำเครื่องหมายเวอร์ชันที่สำคัญ
- Release Notes บันทึกการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเวอร์ชัน
- Semantic Versioning จัดการการอัปเดตเวอร์ชันอย่างเป็นระบบ