<address>
ใช้ระบุข้อมูลติดต่อของบุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในหน้าเว็บ เช่น ชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ หรือที่อยู่
<article>
ใช้กำหนดเนื้อหาที่สามารถแยกออกมาใช้งานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพาส่วนอื่นของหน้าเว็บ เหมาะสำหรับบทความ โพสต์ในบล็อก ข่าว หรือความคิดเห็นของผู้ใช้
<aside>
ใช้แสดงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักแต่ไม่ใช่ส่วนสำคัญ มักใช้สำหรับข้อมูลเสริม ความคิดเห็น หรือโฆษณาที่เกี่ยวข้อง
<footer>
ใช้กำหนดส่วนท้ายของเนื้อหาหรือหน้าเว็บ มักใช้แสดงข้อมูลเพิ่มเติมเช่น ลิขสิทธิ์ ข้อมูลผู้เขียน หรือลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
<header>
ใช้กำหนดส่วนหัวของเนื้อหาหรือหน้าเว็บ มักประกอบด้วยโลโก้ ชื่อเว็บไซต์ เมนูนำทาง หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่ควรแสดงในส่วนบนของหน้า
<h1>
, <h2>
, <h3>
, <h4>
, <h5>
, <h6>
ใช้กำหนดหัวข้อและลำดับความสำคัญของเนื้อหา โดย
<h1>
มีความสำคัญสูงสุด และ<h6>
มีความสำคัญน้อยที่สุด ควรใช้ตามลำดับและไม่ข้ามระดับเพื่อให้โครงสร้างเนื้อหาชัดเจน
<hgroup>
ใช้จัดกลุ่มหัวข้อหลักและหัวข้อรองที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ชื่อหนังสือและชื่อรอง หรือชื่อบทความและคำอธิบายสั้นๆ
<main>
ใช้กำหนดเนื้อหาหลักของหน้าเว็บ ควรมีเพียงหนึ่งเดียวในแต่ละหน้า และไม่ควรอยู่ภายใน
<article>
,<aside>
,<footer>
,<header>
, หรือ<nav>
<nav>
ใช้กำหนดส่วนของเว็บไซต์ที่มีลิงก์สำหรับการนำทาง เช่น เมนูหลัก สารบัญ หรือดัชนี ช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น
<section>
ใช้แบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ละ
<section>
ควรมีหัวข้อ (<h1>
-<h6>
) เพื่อระบุเนื้อหาของส่วนนั้นๆ
<search>
ใช้กำหนดส่วนของเว็บไซต์ที่มีฟังก์ชันการค้นหาหรือกรองข้อมูล ช่วยให้เครื่องมือค้นหาและเทคโนโลยีผู้ช่วยเสียงเข้าใจว่าส่วนนี้เป็นฟอร์มสำหรับการค้นหา