Skip to content

<a>

Element ที่ใช้สร้างลิงก์ไปยังหน้าเว็บ, ไฟล์, อีเมล, ตำแหน่งภายในหน้าเดียวกัน หรือสิ่งอื่นๆ ที่สามารถระบุด้วย URL ได้ โดยใช้ร่วมกับ attribute href เพื่อกำหนดปลายทางของลิงก์

<abbr>

Element ที่ใช้แสดงคำย่อหรือตัวย่อ ช่วยให้ผู้อ่านและเครื่องมือค้นหาเข้าใจความหมายของคำย่อได้ดีขึ้น มักใช้ร่วมกับ attribute title เพื่อแสดงคำเต็มเมื่อนำเมาส์ไปชี้

<b>

Element ที่ใช้ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านไปยังเนื้อหาภายใน โดยไม่ได้ให้ความสำคัญพิเศษกับเนื้อหานั้น เดิมเรียกว่า Boldface element และเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ยังคงแสดงข้อความเป็นตัวหนา อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้ <b> เพื่อจัดรูปแบบข้อความหรือให้ความสำคัญ ควรใช้ CSS font-weight สำหรับการทำตัวหนา และใช้ <strong> สำหรับเน้นความสำคัญของเนื้อหา

<bdi>

Element ที่บอกให้อัลกอริทึมการจัดการทิศทางข้อความ (bidirectional algorithm) ของเบราว์เซอร์จัดการข้อความภายในแยกจากข้อความรอบๆ มีประโยชน์มากเมื่อเว็บไซต์แทรกข้อความแบบไดนามิกและไม่ทราบทิศทางของข้อความที่แทรก

<bdo>

Element ที่ใช้กำหนดทิศทางการแสดงผลข้อความ โดยไม่คำนึงถึงทิศทางปกติของข้อความนั้น

<br>

Element ที่ใช้สร้างการขึ้นบรรทัดใหม่ในข้อความ มีประโยชน์สำหรับการเขียนบทกวีหรือที่อยู่ ซึ่งการแบ่งบรรทัดมีความสำคัญ

<p>

Element ที่ใช้อ้างอิงชื่อผลงานสร้างสรรค์ การอ้างอิงอาจอยู่ในรูปแบบย่อตามข้อกำหนดที่เหมาะสมกับบริบทของการอ้างอิงนั้นๆ

<code>

Element ที่ใช้แสดงข้อความที่เป็นโค้ดคอมพิวเตอร์สั้นๆ โดยปกติเบราว์เซอร์จะแสดงเนื้อหาด้วยฟอนต์ monospace

<data>

Element ที่ใช้เชื่อมโยงเนื้อหากับค่าที่เครื่องสามารถอ่านได้ หากเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเวลาหรือวันที่ ควรใช้ <time> แทน

<dfn>

Element ที่ใช้ระบุคำศัพท์ที่กำลังถูกนิยามในบริบทของประโยคหรือย่อหน้านั้นๆ

<em>

Element ที่ใช้เน้นข้อความให้มีความสำคัญ สามารถซ้อนกันได้ โดยการซ้อนแต่ละชั้นจะเพิ่มระดับความสำคัญ

<i>

Element ที่ใช้แสดงข้อความที่แตกต่างจากข้อความปกติ เช่น คำศัพท์เฉพาะ, คำทางเทคนิค หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ โดยทั่วไปจะแสดงเป็นตัวเอียง

<kbd>

Element ที่ใช้แสดงข้อความที่เป็นการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้ผ่านแป้นพิมพ์ เสียง หรืออุปกรณ์อื่นๆ โดยปกติจะแสดงด้วยฟอนต์ monospace

<mark>

Element ที่ใช้ไฮไลท์หรือทำเครื่องหมายข้อความเพื่อการอ้างอิงหรือเน้นความสำคัญในบริบทนั้นๆ

<q>

Element ที่ใช้แสดงข้อความที่เป็นคำพูดสั้นๆ โดยทั่วไปเบราว์เซอร์จะใส่เครื่องหมายคำพูดให้โดยอัตโนมัติ

<rp>

Element ที่ใช้แสดงวงเล็บสำหรับเบราว์เซอร์ที่ไม่รองรับการแสดงผล ruby annotations ใช้คู่กับ <ruby> และ <rt>

<rt>

Element ที่ใช้ระบุการออกเสียง, การแปล หรือข้อมูลอื่นๆ สำหรับ ruby annotations ใช้ภายใน <ruby>

<ruby>

Element ที่ใช้แสดงการกำกับข้อความขนาดเล็กเหนือหรือใต้ข้อความหลัก มักใช้สำหรับแสดงการออกเสียงอักษรภาษาเอเชียตะวันออก

<s>

Element ที่ใช้แสดงข้อความที่ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือไม่ถูกต้องอีกต่อไป โดยจะแสดงเป็นข้อความที่มีเส้นขีดทับ

<samp>

Element ที่ใช้แสดงข้อความที่เป็นผลลัพธ์จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยปกติจะแสดงด้วยฟอนต์ monospace

<small>

Element ที่ใช้แสดงข้อความขนาดเล็ก เช่น ข้อความลิขสิทธิ์หรือข้อความทางกฎหมาย โดยปกติจะแสดงด้วยขนาดฟอนต์ที่เล็กลงหนึ่งระดับ

<span>

Element ที่ใช้เป็น container แบบ inline สำหรับเนื้อหา ไม่มีความหมายเฉพาะในตัวเอง มักใช้สำหรับการจัดรูปแบบหรือการใช้งาน JavaScript

<strong>

Element ที่ใช้เน้นความสำคัญของข้อความ โดยปกติจะแสดงเป็นตัวหนา

<sub>

Element ที่ใช้แสดงข้อความเป็นตัวห้อย (subscript) เหมาะสำหรับสูตรทางเคมีหรือสมการทางคณิตศาสตร์

<sup>

Element ที่ใช้แสดงข้อความเป็นตัวยก (superscript) เหมาะสำหรับเลขยกกำลังหรือเชิงอรรถ

<time>

Element ที่ใช้แสดงเวลาหรือวันที่ในรูปแบบที่มนุษย์อ่านได้ และสามารถเพิ่ม attribute datetime เพื่อให้เครื่องอ่านได้

<u>

Element ที่ใช้แสดงข้อความที่ควรมีการทำเครื่องหมายแต่ไม่ได้เน้นความสำคัญ โดยปกติจะแสดงเป็นข้อความที่มีเส้นใต้

<var>

Element ที่ใช้แสดงชื่อตัวแปรในสมการทางคณิตศาสตร์หรือในบริบทของการเขียนโปรแกรม โดยปกติจะแสดงเป็นตัวเอียง

<wbr>

Element ที่ใช้ระบุตำแหน่งที่สามารถตัดคำได้ในข้อความยาว ช่วยในการจัดรูปแบบข้อความให้เหมาะสมกับพื้นที่แสดงผล

Released under the MIT License